เอกสารที่สถานทูตส่งมาให้หลังจากสัมภาษณ์ผ่านจะประกอบไปด้วยพาสปอร์ตของเราที่มีสแตมป์วีซ่า เอกสารในซองสีน้ำตาลปิดผนึก เอกสารการตรวจสุขภาพ รวมไปถึงเอกสารให้จ่ายค่าผลิตกรีนการ์ดก่อนเดินทางเข้าอเมริกา ตรวจทานข้อมูลชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด เลขพาสปอร์ต เลขเคสนัมเบอร์ต่าง ๆ บนวีซ่าให้เรียบร้อย หากมีข้อผิดพลาดให้ติดต่อสถานทูตทันทีเพื่อแก้ไข
แนะนำให้อ่านก่อน
- IR-1 DCF Visa: ข้อมูลเบื้องต้น
- IR-1 DCF Visa: ตัวอย่างไทม์ไลน์
- IR-1 DCF Visa: ขั้นตอนที่ 1 การยื่นเรื่อง I-130 petition
- IR-1 DCF Visa: ขั้นตอนที่ 2 การขอใบรับรองความประพฤติ
- IR-1 DCF Visa: ขั้นตอนที่ 3 การส่งเอกสาร Packet 3
- IR-1 DCF Visa: ขั้นตอนที่ 4 การตรวจร่างกาย
- IR-1 DCF Visa: ขั้นตอนที่ 5 สัมภาษณ์วีซ่า
ระหว่างรอเราสามารถเช็คได้ว่าพาสปอร์ตเราได้ถูกส่งกลับมาหรือยังโดยเช็คที่ http://www.ustraveldocs.com/th/th-niv-passporttrack.asp ของเราได้รับพาสปอร์ตคืนตอนบ่ายอีก 2 วันถัดจากวันสัมภาษณ์ค่ะ
สิ่งที่ได้รับมาในพัสดุก็มี (1) พาสปอร์ตพร้อมสแตมป์วีซ่า (2) เอกสารซองสีน้ำตาล 2 ซองที่ห้ามแกะห้ามเปิดเด็ดขาด ถือไว้กับตัวในวันเดินทางเพื่อยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่ port of entry นอกจากนี้ก็มี (3) จดหมายแจ้งให้จ่ายค่าผลิตกรีนการ์ด $220 ก่อนเดินทาง เราจะจ่ายก่อนแน่นอน แต่มีบางเคสที่เข้าไปอเมริกาก่อนแล้วถึงจ่ายก็มีค่ะ ตรวจทานข้อมูลชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด เลขพาสปอร์ต เลขเคสนัมเบอร์ต่าง ๆ บนวีซ่าให้เรียบร้อย หากมีข้อผิดพลาดให้ติดต่อสถานทูตทันทีเพื่อแก้ไข
และนี่ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนการขอวีซ่าแต่งงานค่ะ จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย ต้องใช้ความอดทนสูงในการเตรียมเอกสารมากมายหลายอย่าง การติด 221(g) วันสัมภาษณ์ไม่ใช่เรื่องสนุก และอาจทำให้เคสของคุณ delay ได้ ดังนั้นหากเตรียมเอกสารให้ได้เยอะและพร้อมเท่าไหร่ก็จะยิ่งเป็นผลดีแก่ตัวคุณเอง
ข้อมูลเพิ่มเติมหลังจากเดินทางเข้าอเมริกาแล้ว
เราตัดสินใจจ่ายค่าผลิตกรีนการ์ดหลังจากเดินทางเข้าอเมริกาแล้วค่ะ เพราะจากที่ค้นคว้ามา มีหลายท่านบอกว่าจ่ายหลังเข้าจะได้กรีนการ์ดเร็วกว่าจ่ายก่อนเข้า เราก็เลยลองทำตามดู
วิธีการจ่ายค่าผลิตกรีนการ์ดออนไลน์
ไปที่ https://www.uscis.gov/file-online/log-online-filing แล้วเลือกปุ่มสีฟ้าที่เขียนว่า USCIS FEE Pay Immigrant Fee Now อันบนสุด จากนั้นก็ปฏิบัติไปตาม step บนเว็บไซต์เลยค่ะ ราคาที่เราจ่าย ณ เดือนมีนาคม 2018 คือ US$220 ค่ะ
วิธีการเช็ค case status หลังจากจ่ายเงินแล้ว
ไปที่ https://egov.uscis.gov/casestatus/landing.do แล้วใส่ Receipt number ที่ได้รับจาก USCIS (เขาจะส่งอีเมล์คอนเฟิร์มการจ่ายเงินมาให้) ขึ้นต้นด้วย IOE ตามด้วยเลข 10 ตัว
อีกวิธีหนึ่งในการเช็ค case status คือดาวน์โหลด app (iPhone) ที่ https://itunes.apple.com/us/app/case-tracker-for-uscis/id921827126?mt=8 มาไว้บนมือถือเลยค่ะ สะดวกต่อการเช็คมาก ๆ
Timeline การจ่ายค่ากรีนการ์ดของเรา
▶ 8 มีนาคม 2018 – จ่ายค่าผลิตกรีนการ์ดออนไลน์ จากนั้นเช็ค status ขึ้นว่า “Immigrant visa fee payment received”
▶ 9 เมษายน 2018 – status ขึ้นว่า “Card is being produced”
▶ 12 เมษายน 2018 – status ขึ้นว่า “Card was mailed”
▶ 16 เมษายน 2018 – ได้รับกรีนการ์ดทางเมล์ (USPS Priority Mail)
รวมเวลาทั้งหมดหลังจากจ่ายเงินจนถึงได้รับกรีนการ์ดคือ 1 เดือนกับ 10 วันเท่ากันกับตอนที่เริ่มเรื่องขอวีซ่าเลยค่ะ 🙂
หลังจากที่ status ขึ้นว่า “Card was mailed” แล้ว หากต้องการทราบ tracking number สามารถโทรถาม USCIS ได้ที่เบอร์ 1 (800) 375-5283 เขาจะถามหา Receipt number ให้เตรียมไว้ให้พร้อม แนะนำให้โทร 2 วันหลังจาก status ขึ้นว่า “Card was mailed” นะคะ
This post is also available in: English
No Comments